ช่วงนี้โควิดกลับมาระบาดอีกครั้งในสายพันธุ์ โอมิครอน (BA.4/BA.5) โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คนใกล้ชิดก็เริ่มทยอยติดเชื้อกันเพิ่มขึ้น
.
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ดีในปอด
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบ
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
สามารถแพร่ระบาดได้ง่าย และ รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเก่ง
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
เคยติดเชื้อหรือฉีดวัคซีนแล้วก็ติดเชื้อซ้ำได้ (วัคซีนได้ผลน้อยลง)
.
ผู้ติดเชื้อในระลอกนี้จะมีอาการอะไรบ้าง และต้องปฎิบัติตัวอย่างไร ต้องแยกตัวกี่วัน ต้องกินยาต้านไวรัสหรือไม่ และติดเชื้อแล้วยังรักษาฟรีอยู่หรือไม่
.
ผู้ติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 5-10 วัน โดยไม่ต้องรับประทานยาต้านไวรัส อาการจากการติดเชื้อ BA.5 ไม่ต่างจากโอมิครอนมากนัก คือ
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
อ่อนเพลีย
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
เหนื่อยง่าย
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ไอแห้ง
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
เจ็บคอ
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ไข้
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
มีน้ำมูก
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ปวดศีรษะ
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
คลื่นไส้
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ปวดเมื่อยตามร่างกาย
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ถ่ายเหลว
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ไม่ค่อยพบอาการจมูกไม่ได้กลิ่น / ลิ้นไม่รับรสเหมือนสายพันธุ์อัลฟาและเดลตา
.
ผู้ติดเชื้อบางส่วนไม่มีอาการเลย
.
.
การแยกตัว (Isolation) เป็นการป้องกันการแพร่เชื้อต่อไปให้ผู้อื่น ปัจจุบันคำแนะนำของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คือ 10 วัน นับจากวันที่มีอาการหรือวันตรวจพบเชื้อ
.
สำหรับผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาล เมื่ออาการดีขึ้นแพทย์อาจให้อยู่โรงพยาบาล 5-7 วัน และกลับไปแยกตัวต่อที่บ้านจนครบ 10 วัน
.
ข้อมูลจากการศึกษาผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่ฉีดวัคซีนและมีอาการเล็กน้อยเมื่อปลายปีที่แล้ว พบว่าสามารถแพร่เชื้อได้ 6-9 วันหลังมีอาการหรือตรวจพบเชื้อ และข้อมูลจากการวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร NEJM พบว่า ระยะเวลาตั้งแต่ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนจนถึงไม่สามารถเพาะเชื้อได้เท่ากับ 5 วัน
.
ดังนั้นระยะเวลา 10 วันจึงปลอดภัยที่สุด
.
.
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานเกิน 24 ชั่วโมง
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ระดับออกซิเจนที่วัดปลายนิ้วต่ำกว่า 94%
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาที
.
.
ผู้ติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่หายได้เองโดยไม่ต้องรับประทานยาต้านไวรัส หากเป็นกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหรือฉีดวัคซีนครบตามกำหนด (รวมเข็มกระตุ้น) แล้ว สามารถรักษาที่บ้าน โดยรับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ดื่มน้ำอุ่นมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานซิงค์เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในช่วงนี้อาจรับประทาน 2 เม็ดต่อวัน
และสังเกตอาการตนเอง หากหอบเหนื่อย / หายใจลำบากให้รีบไปโรงพยาบาล
.
ปัจจุบันคำแนะนำของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แบ่งผู้ป่วยเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
.
![?](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t55/1.5/16/1f7e2.png)
สีเขียว
![?](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t55/1.5/16/1f7e2.png)
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ไม่มีอาการหรือสบายดี รักษาตามอาการได้ที่บ้าน อาจให้ยาฟ้าทะลายโจร
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง อาจให้ยาฟาวิพิราเวียร์ หากตรวจพบเชื้อเมื่อมีอาการมาแล้วเกิน 5 วัน
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
ไม่จำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส
.
![?](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td4/1.5/16/1f7e1.png)
สีเหลือง
![?](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td4/1.5/16/1f7e1.png)
คือกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง หรือกลุ่มที่มีภาวะปอดอักเสบ ให้ยาต้านไวรัส 1 ชนิด ภายใน 5 วันหลังเริ่มมีอาการ เรียงลำดับยาที่เลือกใช้ คือ
(1) โมลนูพิราเวียร์
(2) เรมเดซิเวียร์
(3) แพ็กซ์โลวิด
(4) ฟาวิพิราเวียร์
.
![?](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/tc7/1.5/16/1f534.png)
สีแดง
![?](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/tc7/1.5/16/1f534.png)
คือกลุ่มที่มีภาวะปอดอักเสบรุนแรง ระดับออกซิเจนในเลือด ≤ 94% ให้ยาเรมเดซิเวียร์และยาสเตียรอยด์
ผู้ป่วยโควิดยังได้รับการรักษาฟรี แต่ผู้ป่วยจะต้องไปตามสิทธิการรักษาของตนเอง
.
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
สิทธิบัตรทอง: หน่วยบริการปฐมภูมิ ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น โรงพยาบาลประจำอำเภอ / จังหวัด และร้านขายยาในโครงการเจอ แจก จบ
![▪](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/td3/1.5/16/25aa.png)
สิทธิประกันสังคม: โรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้
.
สายด่วน สปสช. 1330
![](/upload-img/DailyVmed/Blog/HOW_TO_PROTECT_YOURSELF_FROM_COVID-19_(1).png)
สรุป
ผู้ติดเชื้อโควิดในระยะนี้มีโอกาสเป็นสายพันธุ์ BA.4/BA.55 ทำให้จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการรุนแรง คือ ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้นตามกำหนด ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวสามารถรักษาและสังเกตอาการที่บ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาต้านไวรัส
ทุคคนควร
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ สวมหน้ากากอนามัย และรับประทานงอาหารเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน